5 วิธีการดูแลรักษากีตาร์ อย่างถูกวิธี

                      ในบทความนี้จะเกี่ยวกับการดูแลรักษากีตาร์ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือกีตาร์อาชีพหรือมือกีตาร์สมัครเล่น การดูแลรักษากีตาร์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับเจ้าของกีตาร์นั้นๆ กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่ถูกสร้างมาอย่างประณีต ประกอบด้วยวัสดุที่ทำมาจากทั้งไม้ โลหะ และพลาสติก มีรูปทรงที่สวยงาม ถ้าดูแลรักษาไม่ดี กีตาร์ตัวโปรดของเราอาจจะไม่อยู่กับเรานานเท่าที่ควรจะเป็น 

                      ปัญหามากมายจะเกิดขึ้นกับกีตาร์หากเราไม่ดูแลกีตาร์ เช่น ทำไมกีตาร์ของเราตัวนี้สายขาดทั้งที่พึ่งเปลี่ยนเอง? (ทั้งที่พึ่งเปลี่ยน 3 เดือนก่อน) ทำไมกีตาร์มีฝุ่นเยอะ คราบสกปรกเต็มไปหมด? ทำไมอยู่ดีๆเสียบสายแจ๊คแล้วเสียงไม่ออก? คำถามเหล่านี้อาจจะมาจากสาเหตุมากมาย แต่ปัญหาสำคัญที่สุดคือ เราได้ดูแลรักษากีตาร์เราจริงๆรึเปล่า?

                      สิ่งที่ผู้ครอบครองกีตาร์ทุกคนควรจะให้ความสำคัญกับกีตาร์คือ ดูแลรักษากีตาร์ให้อยู่ในสภาพเหมือนที่ซื้อมาวันแรกเสมอ และดูแลให้กีตาร์ของเราให้มีเสียงที่ยอดเยี่ยมและเล่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเรามีเกร็ดเล็กๆน้อยในการดูแลกีตาร์มาฝากกันครับ

1. ทำความสะอาดหลังเล่นเสร็จ

                      แน่นอนเวลาเราเล่นกีตาร์ ร่างกายของเราจะมีเหงื่อไคลออกมาจากมือหรือแขนเสมอ ซึ่งเหงื่อนั้นจะไปเกาะติดตามสายกีตาร์และบอดี้ของตัวกีตาร์ ทำให้กีตาร์ของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะสายกีตาร์ที่โดนเหงื่อแล้วจะขึ้นสนิม วิธีดูแลกีตาร์ คือการทำความสะอาดนั้นง่ายนิดเดียว แค่เช็ดด้วยผ้านุ่มๆ ไม่ต้องชุบน้ำ แต่ถ้าจะให้ดี ควรเช็ดด้วย น้ำยาทำความสะอาดกีตาร์โดยเฉพาะ ซึ่งราคาไม่สูง มีขายตามร้านขายอุปกรณ์ดนตรีทั่วไป

2. ผ่อนสายทุกครั้งหลังเล่น

                      วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่หลายคนอาจมองข้ามหรือคิดจะทำแล้วมีลืมไปบ้าง แต่มันเป็นวิธีดูแลกีตาร์ และเป็นการถนอมสายและขยายอายุการใช้งานของสายกีตาร์ได้ดีมากทมีเดียว สายกีตาร์ที่ตึงอยู่เสมอสามารถทำให้คอกีตาร์โก่งงอ โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้เล่นกีตาร์เป็นประจำหรือนานๆทีเล่นครั้งนึง สายกีตาร์ที่ตึงตลอดยังจะทำให้สายมีเสียงที่เพี้ยนและมีโอกาสขาดง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการผ่อนสายกีตาร์เป็นวิธีดูแลที่ง่ายแต่รักษาสายกีตาร์คุณได้มากเลยทีเดียว

3. เก็บกีตาร์ไว้ในที่อุณหภูมิเหมาะสม

                      กีตาร์ควรจะอยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิปรกติ ไม่ร้อนและไม่ชื้นจนเกินไป ด้วยตัวกีตาร์นั้นส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาจากไม้ ห้องที่ร้อนหรือชื้นเกินไปนั้นสามารถทำให้ไม้โก่งหรืองอได้ และนั่นส่งผลเสียต่อตัวกีตาร์อย่างแน่นอน การดูแลกีตาร์ที่ถูกวิธีคือการหาเคสกีตาร์มาใส่ เพื่อไม่ให้ตัวกีตาร์โดนสภาพอากาศภายนอกนั้นจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเก็บกีตาร์

4. เก็บกีตาร์ไว้ในที่ปลอดภัย

                      ที่ปลอดภัยไม่ได้หมายถึงตู้เซฟนะครับ แต่เป็นที่ที่ไม่เสียงให้กีตาร์ไปเจอกับการกระแทก การตก หรือโดนรอยข่วนเหล่านี้มากกว่า ยิ่งถ้าบ้านคุณมีเด็กที่กำลังซน หรือสัตว์เลี้ยง เราควรเก็บหรือวางกีตาร์ไว้ในที่ๆปลอดภัย ไม่ใช่ตำแหน่งที่สัญจร หรือไม่ก็หาเคสกีตาร์ที่แข็งแรงทนทานไว้เพื่อช่วยเก็บและปกป้องกีตาร์นั่นเอง

5. เล่นกีตาร์ของคุณด้วย

                      ข้อสุดท้ายอาจจะเป็นข้อที่ง่ายที่สุด ในเมื่อคุณซื้อกีตาร์มาแล้ว หมั่นเอากีตาร์ของคุณมาเล่นบ่อยๆ มาซ้อม มาแกะเพลง มาเล่นเวลาว่าง เพราะการที่คุณเล่นกีตาร์บ่อยๆ นอกจากจะไม่ทิ้งให้กีตาร์เฉาพังอยู่ในห้องแล้ว เวลาคุณเล่นกีตาร์บ่อยขึ้น คุณก็จะรู้สึกรักและจะอยากดูแลรักษากีตาร์ตัวนั้นไปโดยปริยาย

                      วิธีดูแลรักษากีตาร์เหล่านี้เป็นวิธีง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้เอง ไม่มีใครอยากให้กีตาร์ตัวเองมีปัญหาและต้องมาเปลี่ยนกีตาร์บ่อยๆอยู่แล้ว ยิ่งถ้ากีตาร์ตัวนั้นมีความหมายกับคุณมาก คุณก็ยิ่งอยากให้กีตาร์ตัวนั้นอยู่กับคุณให้นานที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะดูแลรักษากีตาร์กันด้วยนะครับ

ขอบคุณแหล่งที่มา บทความ https://www.bigtone.in.th/5-how-to-maintain-guitar/