การกำเนิดแซกโซโฟนตัวแรกของโลก
🧐🧐 แซกโซโฟนจัดได้ว่าเป็นเครื่องดนตรีที่มีอายุน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องอื่น ๆ แต่ในปัจจุบันแซกโซโฟนนั้นได้เข้ามามีบทบาทในวงดนตรีแทบทุกประเภท เนื่องจากเสียงที่มีเอกลักษณ์ทำให้ถูกใจใครหลายต่อหลายคน วันนี้ลองมาอ่านกันดีกว่าว่าเครื่องดนตรีชิ้นนี้มีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
การกำเนิดแซกโซโฟนตัวแรกของโลกโดย อดอล์ฟ แซกซ์ นักประดิษฐ์ชาวเบลเยี่ยม ผู้คิดค้นเครื่องดนตรีเสียงนุ่ม ที่มีชื่อเสียงอย่าง “แซกโซโฟน” ให้กลายเป็นที่รู้จักของนักฟังเพลงคลาสสิคทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2357 🧐🧐
🤔 นักประดิษฐ์ชาวเบลเยี่ยม ผู้คิดค้นเครื่องเป่าที่ทำจากทองเหลือง ซึ่งเรารู้จักกันดีในชื่อ “แซกโซโฟน” แอนโทนี-โจเซฟ (อดอล์ฟ) แซกซ์ (Antoine-Joseph (Adolph) Sax) เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2357 ณ เมืองดิแนนต์ (Dinant) ประเทศเบลเยี่ยม (Belgium) พ่อของเขาชื่อชาร์ลี-โจเซฟ แซกซ์ (Charles-Joseph Sax) เป็นเจ้าของโรงงานทำเครื่องเป่าและอุปกรณ์ทองเหลืองที่มีชื่อเสียง หลังจากที่แซกซ์เข้าเรียนที่โรงเรียนดนตรี “Brussels Conservatory” เพื่อเรียนรู้การเป่าฟลุต (flute) และแคริเน็ท (clarinet) ต่อมาในปี พ.ศ.2383 เมื่อนายวงโยธวาทิตผู้หนึ่ง ติดต่อให้แซกซ์ประดิษฐ์เครื่องเป่าชนิดใดก็ได้ที่ให้เสียงดัง เพื่อใช้ในวงและต้องการให้มีเสียงคล้ายเครื่องลมไม้ ในที่สุดแซกซ์ ก็นำเครื่องดนตรีประเภทเครื่องทองเหลือง ที่ล้าสมัย ชื่อว่า โอฟิไคลด์ (ophicleide) มาถอดที่เป่าอันเดิมออก และเอาที่เป่าของแคริเน็ตเข้าไปใส่แทน รวมทั้งแก้ไขกลไกของกระเดื่องที่ปิดรู โดยเขาตั้งชื่อมันว่า “แซกโซโฟน” (Saxophone) ช่วงแรกแซกโซโฟน🎷🎷 จะเป็นเครื่องดนตรีที่ผสมระหว่างเครื่องลมไม้กับเครื่องทองเหลือง แต่นักปราชญ์ดนตรีตัดสิน ให้มันเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ เพราะถึงแม้ว่าลำตัว จะทำจากทองเหลือง แต่เสียงจะออกทางเครื่องลมไม้ เนื่องจากปากเป่าเป็นลิ้นปี่ที่ทำจากไม้ต่อมาในปี พ.ศ.2384 แซกซ์นำแซกโซโฟนของเขาเข้าจดสิทธิบัตร และย้ายไปอยู่ที่ปารีส เพื่อขยายผู้ชมให้กว้างขวางไปทั่วโลก อีกทั้งเริ่มต้นดำเนินธุรกิจทางด้านเครื่องดนตรีของเขา ซึ่งกว่าเขาจะได้สิทธิบัตร อย่างเป็นทางการ ก็ใช้เวลากว่า5ปี แม้ว่าเครื่องดนตรีที่เขาประดิษฐ์ขึ้น จะมีเสียงที่ไพเราะเท่าไหร่ แต่นักแต่งเพลงที่สนใจผลงาน และเสียงดนตรีของเขานั้นมีน้อยมาก อีกทั้งนักดนตรีคลาสสิตส่วนใหญ่ จะไม่ยอมรับในสิ่งประดิษฐ์ของเขาเลย ต่อมาในปี พ.ศ.2388 รัฐบาลฝรั่งเศสต้องการแต่งทำนองเพลง เพื่อควบคุมวงโยธวาทิตของทหารราบ ให้มีความพร้อมเพรียงกัน ซึ่งแซกซ์เห็นว่าเป็นโอกาส ที่เขาจะแสดงประสิทธิภาพของแซกโซโฟน เขาจึงเสนอเครื่องดนตรีนี้ให้กับฝรั่งเศส ให้ประชันกันระหว่างแซกโซโฟน🎷 กับเครื่องดนตรีดั้งเดิมของกองทหารราบ ในที่สุดวงดนตรีของแซกซ์ได้รับชัยชนะ และกลายเป็นเครื่องดนตรี ในวงโยธวาทิตของทหารฝรั่งเศสไปโดยปริยาย การได้รับสิทธิบัตรของเขาดูเหมือนจะไร้ค่า เมื่อนักแต่งเพลงและ นักดนตรีไม่ค่อยจะนำแซกโซโฟนมาใช้ เป็นโน๊ตเพลงเล่น อีกทั้งยังมีคนที่พยายามขโมยสิทธิบัตรของเขา🧙♂️ และเผาทำลายห้องทำงาน และแซกซ์ถูกฟ้องล้มละลายถึง 2 ครั้งในปี พ.ศ.2399 และ พ.ศ.2416 เขาต้องใช้เวลาต่อสู้กับชีวิต ที่แสนลำบากอยู่ร่วมทศวรรษ จนเมื่อแซกซ์ย่างเข้าสู่วัย 80 ปี นักแต่งเพลง 3 ท่าน ได้แก่ เอมมานวล คาแบร์ (Emmanuel Chabrier), จูเลส แมสเซเน็ต (Jules Massenet) และคาไมล์ เซนต์-เซียนส์ (Camile Saint-Saens) เรียกร้องให้ French Minister of Fine Arts เข้าช่วยเหลือ แต่สายเกินไป เมื่อแซกซ์ต้องจากโลกนี้ไปในปีนั้นเอง แซกโซโฟนจัดว่าเป็นเครื่องเป่าประเภทลมไม้ หรือเครื่องเป่าประเภทมีลิ้น (The Woodwind Instruments)🧙♂️ มีทั้งหมด 5 ขนาด ได้แก่ โซปราโน (Soprano), อัลโต (Alto), เทเนอร์ (Tenor) ,บาริโทน (Baritone) และเบส (Bass) ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เสียงของแซกโซโฟนยังคงบรรเลงได้ทั้งเสียงกระซิบกระซาบ อ่อนหวานนุ่มนวล หรือแผดจนแสบโสตประสาท จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องดนตรีบรรเลงเดี่ยว จากวงโยธวาทิต สู่วงแจ๊ซ จนที่สุดแซกโซโฟน ก็กลายเป็นเครื่องดนตรี ที่แจ๊ซจะขาดเสียมิได้ ทั้งยังเป็นที่นิยมในการบรรเลงบทเพลงคลาสสิคสมัยใหม
